
โครงสร้างผิว
ผิวหนังจัดว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และจะห่อหุ้มร่างกายเราไว้ทั้งหมด ทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ใต้ลงไป จากความร้อน แสง การติดเชื้อ และสภาพแวดล้อมทั้งหลาย
ผิวหนังประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ดังนี้
-ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
-ชั้นหนังแท้ (Dermis)
-ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutneous fat layer)
1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังด้านนอกสุด เป็นผิวหนังส่วนที่ตายซึ่งเรามักเรียกกันว่า ขี้ไคล นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของชั้นผิวนี้จะพบเซลล์อีกชนิดที่แทรกตัวอยู่ซึ่งมีชื่อ Melanocyte cells ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างเม็ดสีหรือเมลานิน (Melanin) ซึ่งโดยปกติแล้วคนผิวสีมักมีเซลล์ Melanocyte ที่มีขนาดใหญ่กว่าคนเอเชียหรือคนขาว จึงทำให้สร้างเม็ดสีได้มากกว่าและถูกทำลายได้ช้ากว่า และนั่นเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมคนผิวสีจึงมีผิวที่คล้ำกว่าคนขาวและมีแนวโน้มที่ผิวจะคล้ำได้ง่ายเวลาออกแดดจัด
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis)
เป็นชั้นที่อยู่ถัดจากชั้นหนังกำพร้าลงมา ประกอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในกลุ่มเส้นใยคอลลาเจน (Collagen) อิลาสติน (Elastin) ที่คอยให้ความแข็งแรง และ ป้องกันแรงกระแทกให้กับร่างกาย รวมทั้งช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่รับสัมผัส ความรู้สึกร้อนหนาว เป็นต้น
3.ชั้นใต้ผิวหนัง (Hypodermis or Subcutaneous)
เป็นเซลล์ไขมัน จึงทำให้หน้าที่หลักของชั้นนี้มักเกี่ยวข้องกับการเป็นฉนวนกักเก็บความร้อน และช่วยลดแรงกระแทกจากภายนอก ในบางครั้งหากชั้นไขมันนี้มีมากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณต้นขา น่อง สะโพก เราอาจมองเห็นเป็นเนื้อเยื่อที่เป็นกระจุก ดูเป็นลอนๆ ขรุขระๆ ซึ่งรู้จักกันดีในนามของเซลล์ลูไลท์ (Cellulite) นั่นเอง
ทั้งหมดคือความรู้พื้นฐานสำคัญที่ช่วยในการอธิบายว่า ทำไมคนเราจึงมีสุขภาพผิวที่ดี หรือมีความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผิวพรรณแตกต่างกันออกไป
หน้าที่เข้าชม | 25,609 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 12,622 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 ก.พ. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 เม.ย. 2561 |